เทคโนโลยีฐานข้อมูล(Database Technology)
องค์ประกอบของฐานข้อมูล
1.บิท (Bit)
2.ไบท์ (Byte)
3.ฟิล (Field)
4.ไฟล์ (File)
5.เรคคอร์ด (Record)
6.ข้อมูลหรือฐานข้อมูล (Data Base)
ไฟล์หลายๆไฟล์ที่มีจุดประสงที่ทำงานนร่วมกันซึ่งนำมาจัดเก็บด้วยกันเป็นที่เรียกว่า ฐานข้อมูล (Database) คือที่รวมของแฟ้มข้อมูลที่มีความสำพันธ์กัน หรือที่มีความเกี่ยวข้องกัน
การเปรียบเทียบ ไฟล์ข้อมูล กับ ฐานข้อมูล
**แฟ้มข้อมูล**
ข้อมูลอาจารย์ <-_-_-_->โปรแกรมเงินเดือน <-_-_-_-_-> รายงานต่างๆ
แฟ้มข้อมูลจัดการสอน <-_-_-_-_-> โปรแกมจัดการสอน <_-_-_-_-_-_-_-> รายงนต่างๆ
แสดงผลการเรียน <-_-_-_-> โปรแกมแสดงผลการเรียน <-_-_-_-> รายงานต่างๆ
**ฐานข้อมูล**
การจัดการเรียนการสอน ระบบดำเนินการ > ระบบต่างๆ
การคิดเกรดเฉลี่ย ของฐานข้อมูล ========> ระบบต่างๆ
การจัดการระเบียบ <-_-_-_-_> DBMS : (Data Base Management System) > ระบบต่างๆ
การคิดเงินบัญชี โปรแกรมต่างๆ Acsess,Poracle,ฯลฯ > ระบบต่างๆ
ฯลฯ
ฐานข้อมูลแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
1.ฐานข้อมูลแบบลำดับขั้น (Hierarchical Database)
เป็นโครงสร้างที่จัดเก็บข้อมูล ในลักษณะความสัมพันธ์แบบพ่อลูกหรือเรียกว่า PBR หรือเป็นโครงสร้างแบบต้นไม้
2.ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database)
จะเป็นการลงทะเบียนต่างๆ และความสัมพันธ์ระว่าง Record จะต่างทางข้อมูลโดยสำคัญ คือในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแผงความสัมพันธ์เอาไว้โดย Record ที่มีความสัมพันธ์กันจะต้องมีค่าข้อมูลใน Field เหมือนกันและจะแสดงความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน
3.ฐานข้อมูลเชิงสัมพัธ์ (Relational Database)
เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบตาราง มีสองมิติคือ แถว และ คอลัม การเชื่อมโยงข้อมูลในรูปแบบตารางจะเป็นแบบ Field
4.ฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object Database)
เป็นการมองข้อมูลออกเป็นวัตถุ วัทถุหนึ่ง ข้อมูลแต่ละข้อมูลจะเป็นอิสระจากกัน ข้อมูลแต่ละข้อมูล
จะประกอบด้วยคุณลักษณะ Field ต่างๆ
ประโยชน์ของระบบฐานข้อมูล
มี 9 ข้อ ดังนี้
1.ขอมูลสามารถใช้ร่วมกันได้
2.ข้อมูลช่วยให้ความซับซ้อนน้อยลง
3.หลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการใช้ข้อมูล
4.สนับสนุนการทำธุรกรรม
5.รักษาความคงสภาพและความถูกต้องของข้อมูล
6.ข้อมูลมีความปลอดภัย
7.ความต้องการที่เกิดข้อโต้แย้งระหว่างฝ่าย
8.ข้อมูลมารตฐานเชื่อถือได้
9.ระบบฐานข้อมูลให้เกิดความเป็นอิสระของข้อมูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น